ภารกิจการเป็นตัวกลางที่ดิน เป็นภารกิจเกี่ยวกับการเพิ่มโอกาสเข้าถึงที่ดินให้แก่ประชาชนรูปแบบหนึ่งที่ดำเนินการโดย “สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน)” เรียกโดยย่อว่า “บจธ.” และใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า “The Land Bank administration Institute (Public Organization)” เรียกโดยย่อว่า “LABAI” กดที่นี่เพื่อเข้าเว็บไซต์หลักของสถาบัน เป็นหน่วยงานรัฐประเภทองค์การมหาชน จัดตั้งโดยกฎหมายระดับพระราชกฤษฎีกา และอยู่ภายใต้สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี
บจธ. มีวิสัยทัศน์ในการเป็นองค์กรกระจายการถือครองที่ดินหรือเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงที่ดิน บริหารจัดการทรัพยากรที่ดินของรัฐและเอกชนเพื่อให้เกษตรกรรายย่อยและผู้ยากจนเข้าถึงที่ดินทำกิน โดยการสร้างนวัตกรรมในการบริหารจัดการที่ดินใหม่ ๆ ให้เกิดการใช้ประโยชน์ที่ดินและความเป็นธรรมอย่างยั่งยืน ซึ่งภารกิจการเป็นตัวกลางที่ดินนั้น ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายจัดตั้งสถาบัน มาตรา 7 (2)
พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2554 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
“มาตรา 7 ให้สถาบันมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้…(2) รวบรวมข้อมูลที่ดินและเป็นตัวกลางระหว่างผู้ประสงค์จะใช้ประโยชน์ในที่ดินกับเจ้าของที่ดินที่ยังมิได้ใช้ประโยชน์หรือเจ้าของที่ดินที่ยังไม่ประสงค์จะใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างเต็มที่…”
รูปแสดงบทบาทการเป็น “ตัวกลาง” และ “การจับคู่” ของ บจธ.
ประเทศไทยมีที่ดินปล่อยทิ้งร้างอยู่จำนวนมาก ทั้งบริเวณตัวเมืองและย่านชนบท ส่วนใหญ่ล้วนเป็นที่ดินมีศักยภาพทั้งในแง่ความเหมาะสมกับการทำเกษตรและการพักอาศัย เป็นที่มาของ บจธ. ในการมีบทบาทเป็น “ตัวกลาง” และผู้อำนวยความสะดวกใน “การจับคู่” ให้เกิดสัญญาเช่ากัน ระหว่างเจ้าของที่ดินที่ไม่ต้องการปล่อยให้ที่ดินตนทิ้งร้างกับผู้ต้องการใช้ที่ดินเพื่อทำเกษตร โดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อยหรือผู้ยากจนซึ่งขาดแคลนที่ดินทำกิน (หรือมีไม่เพียงพอ) โดยการลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมโครงการผ่านแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์ของสถาบัน
ทาง บจธ. ให้บริการแก่ทั้งสองฝ่ายตั้งแต่ขั้นตอนเข้าตรวจดูสภาพที่ดิน ให้คำแนะนำด้านกฎหมาย ประสานหน่วยงานส่วนท้องถิ่น จับคู่ เจรจาข้อตกลง ร่างสัญญาเช่าภายใต้ความยินยอมสมัครใจของทั้งสองฝ่าย ติดตาม ส่งเสริม และประเมินการใช้ที่ดิน ส่งภาพและข้อมูลรายงานให้แก่ทั้งสองฝ่ายตลอดอายุสัญญา รับฟังปัญหาและเสนอแนะแนวทางแก้ไข เป็นต้น โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด
ผู้ที่ได้รับการบริการจากเรา ได้แก่
“ผู้ต้องการหาที่ดินทำเกษตร”
ผู้เป็นเกษตรกรรายย่อย (ผู้ไม่มีที่ดินทำกินหรือมีไม่เพียงพอ), แรงงานคืนถิ่น, Smart farmer ,Young smart farmer, คนรุ่นใหม่ออกจากเมืองสู่ภาคการเกษตร รวมทั้งผู้ยากจนหรือผู้ไม่มีพื้นฐานเกษตร ให้ได้เข้าถึงที่ดินทำเกษตรที่มีศักยภาพ ทำเลถูกใจ ทั้งที่ดินแบบไม่มีค่าเช่า ค่าเช่าต่ำเป็นพิเศษ หรือค่าเช่าเป็นธรรมในราคาเอื้อมถึงโดยปราศจากภาระเรื่องค่านายหน้า ค่าหน้าดิน ค่านำพา และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่มีลักษณะเดียวกัน
“เจ้าของที่ดิน”
ผู้ไม่ต้องการปล่อยที่ดินที่ตนเองมีทิ้งร้างว่างเปล่าด้วยเหตุผลนานาประการ ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลเรื่องต้องการให้โอกาสแก่เกษตรกรและชุมชนได้มีที่ทำกินหารายได้, เพื่อบรรเทาภาระภาษี, เพื่อป้องกันที่ดินถูกบุกรุกรบกวนเนื่องจากไม่มีคนเข้าไปดูแล หรือบริษัท/องค์กรที่ต้องการพื้นที่ทำกิจกรรม CSR นอกจากนี้ เรายังมีแผนการพัฒนารูปแบบใหม่รองรับความต้องการของผู้ต้องการลงทุนด้านการเกษตรในอนาคต
ช่วงระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา บจธ. สามารถจับคู่เกิดสัญญาเช่าได้กว่า 56 สัญญา ใน 31 พื้นที่ทั่วประเทศ รวมขนาดกว่า 315 ไร่ สร้างโอกาสให้ผู้คนและชุมชนได้ทำการเกษตรและมีที่พักอาศัย แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันกว่า 65 ครัวเรือน และแบ่งเบาภาระด้านธุรกรรม การติดตามดูแลที่ดินแก่ฝ่ายเจ้าของที่ดิน
ปัจจุบัน การเป็นตัวกลางที่ดินของ บจธ. เปิดให้บริการจำนวน 1 รูปแบบ คือ “ที่ดินปันสุข” หรือ รูปแบบที่เจ้าของที่ดินให้เข้าใช้ที่ดินโดยไม่คิดค่าเช่า หรือ คิดค่าเช่าต่ำมากเป็นพิเศษ เพื่อให้โอกาสแก่ผู้ต้องการทำเกษตรรายย่อยหรือผู้มีรายได้น้อย ทั้งนี้ บจธ. เดินหน้าคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมการเป็นตัวกลางที่ดินรูปแบบใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งรูปแบบที่ดินมีค่าเช่าซึ่งมีเครื่องมือกำหนดอัตราค่าเช่าที่เป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย ปราศจากภาระค่านายหน้า ค่านำพา ค่าหน้าดิน หรืออื่น ๆ ในลักษณะเดียวกัน หรือรูปแบบการประสานให้เกิดการลงทุนร่วมกันในภาคการเกษตรเพื่อแบ่งสรรปันส่วนผลผลิต ภายใต้การสร้างข้อตกลงร่วมกันอย่างโปร่งใส และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ติดตามความเคลื่อนไหวของเราผ่านช่องทางต่าง ๆ เพื่อรับข้อมูลและการบริการจากเจ้าหน้าที่ ยินดีตอบคำถาม ให้คำปรึกษาและบริการแก่ทุกท่านค่ะ
เพจFB “ตัวกลางที่ดิน CLM:LABAI”
หรือ
LINE Official